รักษาฝ้า ไม่ควรซื้อครีมมารักษาเองเด็ดขาด

ฝ้าเกิดจากการที่ผิวถูกกระตุ้นการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีในชั้นผิวหนัง ทำให้เห็นเป็นสีคล้ำตั้งแต่จุดเล็กๆ กระจายทั่วใบหน้า หรือเป็นวงรอยด่างดำขนาดใหญ่ในบริเวณที่ถูกกระตุ้นเยอะที่สุด การรักษาฝ้านั้นหากเป็นแล้วไม่สามารถทำให้หายขาดได้ แต่การรักษาจะช่วยชะลอการเกิดฝ้าใหม่ และปรับการทำงานของเม็ดสีเพื่อให้ฝ้าที่มีอยู่จางลง ซึ่งหากคนไข้ควรทำควบคู่ไปกับการดูแลผิวเป็นประจำในแต่ละวัน ก็จะยิ่งส่งเสริมให้การรักษาฝ้านั้นช่วยควบคุมและลดโอกาสการเกิดฝ้าได้ดียิ่งขึ้น

เพศหญิงมักจะเกิดฝ้ามากกว่าเพศชายถึง 9-10 เท่า ซึ่งสัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนเพศที่เพิ่มขึ้นค่ะ โดยเห็นชัดเจนมากที่สุดในรายที่ตั้งครรภ์ช่วง 3 เดือนสุดท้าย คุณแม่มักจะเป็นฝ้า หรือมีฝ้าเข้มขึ้นกว่าเดิม แต่ส่วนใหญ่จะจางหายไปหลังจากคลอดน้อง เพราะระดับฮอร์โมน เริ่มคืนสู่ภาวะปกตินั่นเอง ส่วนสาวๆที่รับประทานยาคุมกำเนิด หรือได้รับฮอร์โมนทดแทนก็เป็นฝ้าได้เช่นกัน หากต้องการคุมกำเนิดควรปรึกษาสูติ-นรีแพทย์ เพื่อเลือกวิธีคุมกำเนิดวิธีอื่นก็เป็นทางออกที่ดี

ฝ้ายังเกิดในสาวๆ ผิวเข้ม อย่างสาวเอเชียด้วยนะคะ รวมถึงละตินอเมริกา อัฟริกันและตะวันออกกลาง โดยเริ่มเป็นช่วงวัยกลางคนมากที่สุด หรือหากมีประวัติ คนในครอบครัวเป็นฝ้า เราก็จะมีโอกาสเป็นฝ้าสูงขึ้นด้วย การรักษาโดยใช้ครีมที่มี AHA ความเข้มข้นไม่เกิน 5-10% จะช่วยลอกชั้นผิวขี้ไคล และเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว หากใช้ครีมที่มี AHA เข้มข้นสูงจะทำให้ผิวไวต่อแสง เกิดรอยแดงหรือรอยไหม้ได้

ลดการสร้างเม็ดสีโดยใช้ครีมที่มีสาร active ingredients มีส่วนประกอบที่ช่วยลด การสร้างเม็ดสีและทำให้ฝ้าจางลง เช่น Vitamin C , Retinol, Arbutin (ชนิดสกัดจาก Bearberry), Licorice, Kojic acid ซึ่งสารแต่ละชนิดนี้จะมีความเข้มข้นกับปริมาณที่ควรใช้แตกต่างกันออกไป ไม่ควรซื้อครีมมารักษาเองเด็ดขาด เพราะครีมตามท้องตลาดมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นสารเคมีที่อันตรายมาก คุณอาจจะเป็นฝ้าถาวรหรือด่างขาว ทำให้รักษายากกว่าเดิม หากต้องการรักษาอย่างจริงจังแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอดีกว่า คุณหมอจะวิเคราะห์และเลือกวิธีการรักษาฝ้าให้เรา เช่น กรณีที่รักษายากและอาจเกิดผลข้างเคียงได้ง่าย