การฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา กลายเป็นทางเลือกยอดฮิตในวงการเสริมความงาม สำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึก มีร่องน้ำตา หรือดูอ่อนล้าตลอดเวลา แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับบริการ เราควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดว่าการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใครบ้าง และใครไม่ควรฉีด เพราะแม้จะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็มีความละเอียดอ่อนและต้องอาศัยความชำนาญจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร?
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid – HA) เข้าไปยังบริเวณใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึกหรือร่องน้ำตาที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น หรือจากพันธุกรรม ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์ และลดความหมองคล้ำบริเวณใต้ตา
ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?
แม้ว่า ฟิลเลอร์ใต้ตา จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะสมกับการฉีด มาดูกันว่ากลุ่มใดที่เหมาะที่สุด
1. คนที่มีร่องใต้ตาลึก
คนที่มีลักษณะร่องลึกจากหัวตาลงมายังใต้ตา หรือที่เรียกว่า “ร่องน้ำตา” มักทำให้ดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย การเติม ฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยเติมเต็มให้ร่องดูตื้นขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นทันที
2. คนที่มีเบ้าตาลึกจากกรรมพันธุ์
บางคนมีลักษณะเบ้าตาลึกตั้งแต่เด็ก แม้นอนพักผ่อนเพียงพอก็ยังดูเหมือนคนอดนอนอยู่เสมอ การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้เบ้าตาดูเต็มและกลมกลืนกับใบหน้ามากขึ้น
3. คนที่มีปัญหาถุงใต้ตาไม่มาก
ผู้ที่มีถุงใต้ตาเล็กน้อยสามารถใช้ ฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อกลบรอยต่อระหว่างถุงตากับแก้ม ทำให้ถุงตาดูจางลงได้
4. คนที่ต้องการปรับลุคให้ดูสดใสขึ้น
แม้ไม่มีร่องลึกชัดเจน แต่บางคนอยากเพิ่มความสดใส ความอ่อนเยาว์ ก็สามารถฉีดได้เช่นกัน แต่อย่าลืมปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ
ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?
แม้การฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยง
1. ผู้ที่มีถุงใต้ตาขนาดใหญ่หรือผิวหย่อนคล้อยมาก
ในกรณีที่มีถุงใต้ตาใหญ่เกินไป การเติมฟิลเลอร์อาจไม่ช่วยให้ดีขึ้น แถมอาจทำให้ถุงตาดูเด่นชัดขึ้น แนะนำให้รักษาด้วยการผ่าตัดจะดีกว่า
2. ผู้ที่มีประวัติแพ้สารฟิลเลอร์
แม้ ฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ใช้จะเป็นชนิด HA ซึ่งมีความปลอดภัยสูงและสามารถสลายได้เอง แต่หากมีประวัติแพ้ หรือเคยเกิดอาการบวมแดงรุนแรง ควรหลีกเลี่ยง
3. ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
ผู้ที่มีโรค SLE หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง ควรหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์โดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบหรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- เห็นผลทันทีหลังทำ
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล
- ใช้เวลาเพียง 15-30 นาที
- ปลอดภัยเมื่อฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- สลายเองได้ภายใน 6-18 เดือน
ข้อควรระวังเมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เนื่องจากบริเวณใต้ตาเป็นจุดที่มีเส้นเลือดมาก และผิวบาง จึงมีความเสี่ยงสูงหากฉีดผิดพลาด ดังนั้นควรระมัดระวังเรื่องต่อไปนี้
เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องอาศัยความแม่นยำสูง การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และใบประกอบวิชาชีพคือสิ่งสำคัญที่สุด
เลือกฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน
ควรเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. และมีการรับรองจากแหล่งผลิต มีการเปิดกล่องใหม่ต่อหน้า และเช็กเลขล็อตสินค้าได้
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีด
ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีด ไม่ควรกด นวด หรือจับบริเวณใต้ตา เพื่อลดความเสี่ยงฟิลเลอร์เคลื่อนที่
คำแนะนำก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ก่อนฉีด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยา
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนา ๆ ในวันฉีด
หลังฉีด
- ประคบเย็นบริเวณใต้ตาเพื่อลดบวม
- งดการออกกำลังกายหนัก 1-2 วัน
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น ซาวน่า อบไอน้ำ
สรุป: ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่ต้องใส่ใจความปลอดภัย
ฟิลเลอร์ใต้ตา ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาใต้ตาลึก หรือดูเหนื่อยล้าแบบไม่ต้องผ่าตัด แต่ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และรับบริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและน่าพึงพอใจที่สุด
หากคุณกำลังลังเลว่าตนเองเหมาะกับ ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือไม่ การเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังหรือศัลยกรรมตกแต่งคือทางเลือกที่ดีที่สุด ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก